LxLight
Lxlight
40 ปีให้หลัง หลังจากการกวาดล้าง death note นั้นได้หมดไปจากโลกแล้ว แต่ว่าผู้สืบทอดแอล ก็ยังคงอยู่ แต่หากว่าคิระนั้น กลับเหลือเอาไว้เพียงแค่ชื่อ เพื่อให้คนรุ่นหลังนั้นไม่เอาเป็นแบบอย่าง และชื่อคิระ ก็ได้รับบทบาทเป็นอาชญากรอย่างเต็มตัว 'ประวัติศาสตร์ มันถูกเขียนขึ้นโดยผู้ชนะ' นั่นคือสิ่งที่ทุกคน...ต่างก็รู้ดี
ไลท์ ยางามิ เด็กหนุ่มอายุย่าง 19 ที่มีชื่อเหมือนกับ คิระรุ่นแรก และไม่ใช่เพียงแค่ชื่อเท่านั้น ที่เหมือนกัน แต่ระดับความคิด ยังเทียบเท่า กับคิระรุ่นแรกอีกด้วย จนมีคนภายนอก บางกลุ่มคิดว่าเขานั้นคือ คิระคนก่อนกลับชาติมาเกิด หรือแม้แต่บางคน ก็คิดกลัวเค้าเพียงเพราะชื่อเท่านั้น
แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับ ชอบชื่อ ยางามิ ไลท์ หรือฉายาที่เพื่อนของเขาเรียกกันว่า คิระบนดิน อย่างน่าประหลาด
เด็กหนุ่มสวมเฮดโฟน เดินไปตามถนน เรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย...ไม่สิ จุดหมายของเขาน่ะ มีอยู่แล้ว แต่ว่ามัน 'น่าเบื่อ' จนเทียบเท่ากับคำว่า ไม่มีไปแล้วต่างหาก
ไลท์คิดมาเสมอ ชีวิตของเขา ในตอนนี้คงไม่มีทางยิ่งใหญ่เทียบเท่า คิระ คนนั้นได้หรอก ตัวเขาในตอนนี้ ก็แค่เด็กหนุ่ม มหาวิทยาลัยธรรดาๆคนหนึ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนกระแสของสังคม เปลี่ยนยุคสมัยได้ อย่างที่คิระเคยทำ ก็แค่เรียนไปวันๆ เพื่อที่จะสามารถทำงาน เลี้ยงตัวเองได้ และหาผู้หญิงสักคนมาเป็นภรรยา มีลูก เลี้ยงลูก แล้วก็ดำเนินชีวิต ไปอย่างคนธรรมดา...ก็เป็นแค่ คนธรรมดา แล้วสุดท้าย...ก็ตาย อย่างคนธรรมดา...
ปึก!
"ขอโทษครับ" ไลท์ชนกับคนๆหนึ่ง จึงหันหลังไปขอโทษ แต่ไอ้หมอนั่น กลับไม่สนใจ อะไรซ้ำยังเดินไปเรื่อยๆอย่างหน้าตาเฉย
'ยังไง ฉันไม่สนใจอยู่แล้ว' ไลท์เดินไปเรื่อยๆ แต่ว่ามันกลับมีบางอย่างที่แปลกไปจากเดิม 'อะไรกันนะ ไอ้ความรู้สึก ที่เหมือนกับเคยเจอ 'หมอนั่น' มาก่อน' ไลท์เดินมาเรื่อยๆ จนถึงบ้านแต่ความรู้สึกบางอย่างจาก ชายลึกลับ กลับยังคงวนเวียนอยูในสมองของเขา
"ไลท์คุง เหม่ออะไรอยู่จ๊ะ" หญิงวัยกลางคน มีศักดิ์เป็นแม่ของพูดขึ้นกลางโต๊ะอาหาร ที่พวกเขากำลังรับประทานอาหาร
'พวกเขา' จริงๆ ก็มีเพียงแค่ แม่ และไลท์เท่านั้น ชีวิตของพวกเขา ไม่ได้เพียบพร้อมเหมือนกับ คิระรุ่นแรกเลยซักนิด ไม่ได้มีพ่อ มีเป็นตำรวจยศใหญ่ หรือมีน้องสาวที่น่ารักแต่พวกเขาเป็นเพียงครอบครัวธรรมดาๆ ที่ไม่มีอะไรน่าจดจำเหมือนกับคิระ...
และไลท์เอง ก็ชอบความเป็นอยู่แบบนี้
"ทำไมแม่ถึง ให้ชื่อผมว่า ไลท์ ยางามิ อย่างนั้นหรอครับ"
"ลูกคงคิดว่ามันแปลกสินะจ๊ะ ว่าทำไมแม่ถึงได้ให้ชื่อ ที่ผู้คนกลัวนักกลัวหนากับลูก"
"..."
"แล้วลูกสงสัยมั้ยจ๊ะ ว่าทำไมเราถึงได้มี สกุลของตระกูล ยางามิ ได้"
หลังจากแม่ของไลท์ พูดถึงสกุลของเขา ไลท์ก็ฉุกคิดขึ้นได้ จริงสิ...ทำไมกัน
"นั่นก็เป็นสิ่งที่บอกได้อย่างชัดเจนเลยล่ะ คุณปู่บอกแม่ว่า พวกเขาน่ะยังมีเลือดเนื้อเชื้อไขของ ยางามิอยู่นะ"
"..."
"แล้วแม่เอง ก็คิดว่าลูกน่ะ เหมือนเขามันก็เท่านั้นล่ะจ่ะ" แม่พูดแล้วยิ้มขึ้น
"แม่ครับ...แม่เชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิดรึปล่าวครับ..." แล้วประเด็นที่ไลท์ถามก็ได้กลายหัวข้อการคุยกันบนโต๊ะอาหารไปเสียอย่างนั้น...
แผ่นหลังของแอลค่อยๆเลือนหายไป ไม่ว่าไลท์จะเอื้อมมือไปคว้าไว้เท่าไหร่ก็เอื้อมไม่ถึงสักที
พรึ่บ!
ทุกอย่างดำมืดไปหมด ไลท์เดินตรงไปเรื่อยๆท่ามกลางความมืดเหล่านั้น หลังจากเดินมาได้สักพัก ไลท์ก็ได้เจอประตูบานหนึ่งเป็นประตูสีขาว
'ประตูหรอ' ไลท์ชั่งใจอยู่สักพัก ก่อนที่จะค่อยๆผลักประตูออกไป
วาบ!!
แสงสีขาว จากประตูสาดส่องเข้ามาทางไลท์ราวกับจะดูดกลืนไลท์ไปในอีกสถานที่หนึ่ง ก่อนที่ทุกอย่างจะดำมืดไปอีกครั้ง
พรึบ!!
ไลท์ลืมตื่นขึ้น แต่ก็พบว่าที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เรียกว่า บ้าน
'ที่นี่...ที่ไหน' ไลท์ลุกขึ้นจากเตียง ที่อยู่ภายในห้องมึดๆ ก่อนที่จะหันไปอีกด้านของเตียงที่ ร่างอีกร่างหนึ่งนอนอยู่
'หมอนี่ มานอนอยู่นี่ตอนไหนกัน... ไม่สิ เราต่างหาก ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่'
"ไลท์คุง พักผ่อนนานแล้วนะครับ ได้เวลาทำงานของคุณแล้วนะครับ" เสียงหนึ่งดังออกมาจากด้านนอกของห้องนี้ พร้อมกับร่างที่สบถอะไรบางอย่างอยู่ข้างๆเขา ที่ลุกขึ้นมานั่งอยู่ข้างๆเขาแต่เหมือนกับว่า ชายคนนี้ ไม่รู้ถึงการมีอยู่เขาเลย
'ไลท์หรอ หรือว่าหมอนี่... คิระ' ไลท์หันไปมองชายที่ชื่อว่า อาชญากรที่อยู่ในยุคของเขา แต่ตัวเขาเองก็ตกใจกับสิ่งที่ปรากฏที่ข้างหน้า
'นี่มัน...ฉัน'
'แม่ครับ...แม่เชื่อเรื่องของการกลับชาติมาเกิดหรือปล่าวครับ'
'ไม่รู้สิจ๊ะ แต่ว่าเหตุที่เหนือธรรมชาติเนี่ย มันก็ค่อนข้างเกิดขึ้นอยู่ทุกวันนะ ก็เหมือนกับลูกที่เหมือน คิระ มากจนแม่ต้องตั้งชื่อว่าไลท์ไงจ๊ะ'
'...'
'อ๊ะ แต่ลูกจะไม่ใช่อาชญากรเหมือนเขาหรอกนะจ๊ะ ลูกน่ะก็คือลูกนะและแม่เชื่อว่าลูกน่ะ ดีเกินกว่าที่จะเป็น อาชญากรนะ'
'...ครับแม่ แต่ผมน่ะ ไม่เชื่อหรอกครับว่าผมกับเขาน่ะเหมือนกัน'
'ไม่ใช่แค่เหมือน...แต่ว่ามันใช่เลยต่างหาก' ขณะที่ คิระ ลุกออกจากเตียงไปทำธุระส่วนตัวและเดินออกนอกห้องไป ไลท์ก็เดินตามไปในทันที และมีสิ่งหนึ่งที่ไลท์รู้ ก็คือ ไม่มีใครมองเห็นตัวตนของเขา ไลท์ดูทุกอย่างเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน ของคิระ ที่อยู่แต่ในห้องสีขาวๆ กับชายอีกคน ที่คิระเรียกเขาว่าแอล
'นี่ก็คงเป็นแอลรุ่นแรก ละมั้ง' ไลท์มองดูการกระทำทุกอย่าง ของคิระและแอลถึงแม้จะตขิดตขวงใจอยู่บ้าง กับการกระทำของแอลต่อคิระ แต่ว่าก็ละสายตาจากทั้งสองไม่ได้เลย
'ไหนประวัติศาสตร์ บอกว่าแอลกับคิระเป็นศัตรูกันไง ทำไมที่นี่ พวกเขาถึงสนิทกันขนาดนี้ หรือว่าพวกเขาใส่หน้ากากเข้าหากันหรอ... เหมือนเราแหะ' แต่ไลท์กลับแปลกใจกับแอล คิระ น่ะตัวเขาดูออกอยู่แล้วว่าเป็นการแสดง แต่ในสายตาของแอลที่ไลท์เห็น มันคือความรู้สึกจริงๆ
'คนนี้ เหมือนใครกันนะ ความรู้สึกแบบนี้'
'ไอ้คนที่ชน เมื่อตอนเย็น...หรอ'
ติ๊ดๆๆ ติ๊ดๆๆ เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นพร้อมกับทุกอย่างที่ดับวูบลงไป ไลท์ลืมตาตื่นขึ้น 'บ้าน'
"ฝันหรอ...ไม่สิ เรื่องจริงหรอ ไม่ ไม่ใช่...ฝัน..." ไลท์บ่นพึมพำอยู่สักพักจนแม่ต้องสกิดเรียกไลท์
"บ่นอะไร อยู่จ๊ะนอนไม่พอหรอ...หืม" แม่ยกถาดอาหารเช้ามาวางไว้ที่โต๊ะ ก่อนทั้งทั้งจะเริ่มรับประทานอาหาร
"...ปล่าวครับ"
ไลท์กำลังเดินไปมหาวิทยาลัย เขาเดินไปเรื่อยๆ แต่ในหัวสมองของเขาในตอนนี้ กำลังคิดถึงเรื่องบางอย่างอยู่ตลอดเวลา ...ความฝัน ในขณะที่ไลท์กำลังเดินผ่านสวนสาธารณะ สายตาของเขา ก็ได้ไปสดุดกับร่างโปร่ง ที่นั่งบนม้านั่งตรงสวนสาธารณะด้วยท่าทางแปลกประหลาด
'โอ๊ย' อยู่หัวของเขาก็ปวดขึ้นมาซะอย่างนั้น พร้อมกับที่ไลท์นึกถึงบางอย่างขึ้นมา 'ท่านั่งนั่น...แอลหรอ'
ขาของไลท์เดินไปหา ชายคนนั้นตามสัญชาตญาณของเขา พร้อมกับที่แอลยิ้มให้กับเด็กหนุ่มเดินเข้ามาหาเขา 'ก็จริงอยู่ที่เขาเหมือนแอล แต่ว่าการเริ่มสนทนากับคนที่ไม่รู้จักเราเอง แทบไม่ได้คิดเลยด้วยซ้ำ'
"มีอะไรกับผมรึปล่าวครับ" แอลถามไลท์
'เหมือนยันเสียงเลย'
"เอ่อ...ผมขอนั่งด้วยคน ได้มั้ยครับ" ไลท์มองสบตากับแอล(ดูปฎิกิริยาของอีกฝ่าย)
"เชิญครับ" แอลพูดและเขยิบที่ว่างให้
'แล้วไงต่อ จะถามเลยดีมั้ยนะ นายใช่แอลรึปล่าว บ้าน่าเพ้อเจ้อ หรือ นายคิดว่าการกลับมาเกิดมันเป็นไปได้รึป่าว แบบนี้เหมือนจีบเขาไม่ใช่รึไงกัน เราเคยเจอกันมาก่อนมั้ยครับ ยิ่งแย่กว่าเดิมไม่ใช่รึไง หรือคุณชื่ออะไร... ' ไลท์คิดไปต่างๆนาๆ สุดท้ายแอลก็แทรกขึ้น
"ดูเหมือน คุณกำลังเดินทางไปมหาวิทยาลัย แล้วตอนนี้คุณถึงมานั่งอยู่กับผมได้ครับ"
"ก็จริงของคุณครับ แต่ผมมีเรื่องกลุ่มใจบางอย่าง ก็เลยอยากผักผ่อนก่อนที่จะไปมหาวิทยาลัยน่ะครับ" ไลท์โกหก
แล้วทั้งสองก็เงียบ อีกครั้ง
"คุณ/ผมน่ะ..." ทั้งสองที่ดูเหมือนจะทนต่อความเงียบไม่ไหว จึงพูดขึ้นมา
"คุณพูดก่อนก็ได้ครับ" ไลท์พูดขึ้น แอลหันมาสบกับตาสีน้ำตาลเข้มของไลท์ ก่อนจะยกยิ้มขึ้น
"ครับ...ผมน่ะ จริงๆแล้ว ผมมาตามหาคนอยู่น่ะครับ มันอาจจะเป็นเรื่องเหลวไหล เพราะว่าเขาเป็นคนที่อยู่ในฝันของผมน่ะครับ แต่ผมก็คิดว่า ผมน่าจะเจอแล้ว" แอลสบตากับไลท์ อีกครั้ง ไลท์เบอกตากว้าง 'หรือว่า เขาตามหาเรา...'
"เอ่อ...คุณเชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิดรึป่าวครับ..." และสุดท้าย ก็คงเป็นครั้งแรกที่ไลท์ไม่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย และเค้าได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับแอล ในหลายๆเรื่อง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการพูดคุยในระยะเวลาสั้น แต่ว่าทุกๆคำพูดนั้นกลับทำให้ไลท์รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก และทุกๆคำพูดของแอลทำให้ไลท์ยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าคนๆนี้ คือคนเขาฝันถึง...แอล แต่ว่าแล้วยังไงหล่ะตอนนี้ พวกเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์ เหมือนแต่ก่อน พวกเขาในตอนนี้ ก็แค่...คนรู้จัก ก็เท่านั้น
ตอนนี้ก็คงถึงฉากสุดท้าย ของพวกเขาทั้งสองคน ...แอลนายเองก็ถึงเวลาแล้วสินะ...
"ผมน่ะ เจอคนที่ผมตามหาแล้ว คงจะไม่ปล่อยให้ไปได้ง่ายหรอกนะครับ ไลท์คุง" แอลพูดขึ้น ขณะที่บทสนทนา ใกล้จะจบลง
"แอล จริงๆหรอ" ไลท์เบิกตากว้าง พลางพูดขึ้นราวกับเสียงกระซิบ
"ไลท์คุง คราวนี้ไม่ได้มีเดธโน๊ต เหมือนอย่างแต่ก่อนแล้วนะครับ คุณน่ะฆ่าผมไม่ได้อีกแล้วนะครับ" แอลตอกย้ำมากขึ้น
"แอล..." ก่อนไลท์จะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ แอลก็ดึงตัวไลท์ไปกอด
"ผมโกรธนะ ที่คุณเอาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผมกับคุณมาเล่นกับจิตใจของผม ไลท์คุง คุณคิดว่าคุณจะสำนึกผิดเรื่องในอดีตยังไง หรอครับ" แอลกระซิบ
คุณเชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิด รึปล่าว?
ผมน่ะ เชื่อแล้วล่ะ ว่ามันมีจริง
ไลท์หลุบตาลง แล้วกอดแอลตอบ พลางส่งเสียงเบาราวกับเสียงกระซิบที่สงวนเอาไว้ให้แอลได้ยินคนเดียว "สำนึกผิด... ฉันเคยทำกับนายยังไง นายจะทบต้นทบดอกก็ได้ ฉันพร้อมที่จะสำนึกผิดแล้ว...แอล"
End.
"ไลท์คุง เหม่ออะไรอยู่จ๊ะ" หญิงวัยกลางคน มีศักดิ์เป็นแม่ของพูดขึ้นกลางโต๊ะอาหาร ที่พวกเขากำลังรับประทานอาหาร
'พวกเขา' จริงๆ ก็มีเพียงแค่ แม่ และไลท์เท่านั้น ชีวิตของพวกเขา ไม่ได้เพียบพร้อมเหมือนกับ คิระรุ่นแรกเลยซักนิด ไม่ได้มีพ่อ มีเป็นตำรวจยศใหญ่ หรือมีน้องสาวที่น่ารักแต่พวกเขาเป็นเพียงครอบครัวธรรมดาๆ ที่ไม่มีอะไรน่าจดจำเหมือนกับคิระ...
และไลท์เอง ก็ชอบความเป็นอยู่แบบนี้
"ทำไมแม่ถึง ให้ชื่อผมว่า ไลท์ ยางามิ อย่างนั้นหรอครับ"
"ลูกคงคิดว่ามันแปลกสินะจ๊ะ ว่าทำไมแม่ถึงได้ให้ชื่อ ที่ผู้คนกลัวนักกลัวหนากับลูก"
"..."
"แล้วลูกสงสัยมั้ยจ๊ะ ว่าทำไมเราถึงได้มี สกุลของตระกูล ยางามิ ได้"
หลังจากแม่ของไลท์ พูดถึงสกุลของเขา ไลท์ก็ฉุกคิดขึ้นได้ จริงสิ...ทำไมกัน
"นั่นก็เป็นสิ่งที่บอกได้อย่างชัดเจนเลยล่ะ คุณปู่บอกแม่ว่า พวกเขาน่ะยังมีเลือดเนื้อเชื้อไขของ ยางามิอยู่นะ"
"..."
"แล้วแม่เอง ก็คิดว่าลูกน่ะ เหมือนเขามันก็เท่านั้นล่ะจ่ะ" แม่พูดแล้วยิ้มขึ้น
"แม่ครับ...แม่เชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิดรึปล่าวครับ..." แล้วประเด็นที่ไลท์ถามก็ได้กลายหัวข้อการคุยกันบนโต๊ะอาหารไปเสียอย่างนั้น...
แผ่นหลังของแอลค่อยๆเลือนหายไป ไม่ว่าไลท์จะเอื้อมมือไปคว้าไว้เท่าไหร่ก็เอื้อมไม่ถึงสักที
พรึ่บ!
ทุกอย่างดำมืดไปหมด ไลท์เดินตรงไปเรื่อยๆท่ามกลางความมืดเหล่านั้น หลังจากเดินมาได้สักพัก ไลท์ก็ได้เจอประตูบานหนึ่งเป็นประตูสีขาว
'ประตูหรอ' ไลท์ชั่งใจอยู่สักพัก ก่อนที่จะค่อยๆผลักประตูออกไป
วาบ!!
แสงสีขาว จากประตูสาดส่องเข้ามาทางไลท์ราวกับจะดูดกลืนไลท์ไปในอีกสถานที่หนึ่ง ก่อนที่ทุกอย่างจะดำมืดไปอีกครั้ง
พรึบ!!
ไลท์ลืมตื่นขึ้น แต่ก็พบว่าที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เรียกว่า บ้าน
'ที่นี่...ที่ไหน' ไลท์ลุกขึ้นจากเตียง ที่อยู่ภายในห้องมึดๆ ก่อนที่จะหันไปอีกด้านของเตียงที่ ร่างอีกร่างหนึ่งนอนอยู่
'หมอนี่ มานอนอยู่นี่ตอนไหนกัน... ไม่สิ เราต่างหาก ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่'
"ไลท์คุง พักผ่อนนานแล้วนะครับ ได้เวลาทำงานของคุณแล้วนะครับ" เสียงหนึ่งดังออกมาจากด้านนอกของห้องนี้ พร้อมกับร่างที่สบถอะไรบางอย่างอยู่ข้างๆเขา ที่ลุกขึ้นมานั่งอยู่ข้างๆเขาแต่เหมือนกับว่า ชายคนนี้ ไม่รู้ถึงการมีอยู่เขาเลย
'ไลท์หรอ หรือว่าหมอนี่... คิระ' ไลท์หันไปมองชายที่ชื่อว่า อาชญากรที่อยู่ในยุคของเขา แต่ตัวเขาเองก็ตกใจกับสิ่งที่ปรากฏที่ข้างหน้า
'นี่มัน...ฉัน'
'แม่ครับ...แม่เชื่อเรื่องของการกลับชาติมาเกิดหรือปล่าวครับ'
'ไม่รู้สิจ๊ะ แต่ว่าเหตุที่เหนือธรรมชาติเนี่ย มันก็ค่อนข้างเกิดขึ้นอยู่ทุกวันนะ ก็เหมือนกับลูกที่เหมือน คิระ มากจนแม่ต้องตั้งชื่อว่าไลท์ไงจ๊ะ'
'...'
'อ๊ะ แต่ลูกจะไม่ใช่อาชญากรเหมือนเขาหรอกนะจ๊ะ ลูกน่ะก็คือลูกนะและแม่เชื่อว่าลูกน่ะ ดีเกินกว่าที่จะเป็น อาชญากรนะ'
'...ครับแม่ แต่ผมน่ะ ไม่เชื่อหรอกครับว่าผมกับเขาน่ะเหมือนกัน'
'ไม่ใช่แค่เหมือน...แต่ว่ามันใช่เลยต่างหาก' ขณะที่ คิระ ลุกออกจากเตียงไปทำธุระส่วนตัวและเดินออกนอกห้องไป ไลท์ก็เดินตามไปในทันที และมีสิ่งหนึ่งที่ไลท์รู้ ก็คือ ไม่มีใครมองเห็นตัวตนของเขา ไลท์ดูทุกอย่างเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน ของคิระ ที่อยู่แต่ในห้องสีขาวๆ กับชายอีกคน ที่คิระเรียกเขาว่าแอล
'นี่ก็คงเป็นแอลรุ่นแรก ละมั้ง' ไลท์มองดูการกระทำทุกอย่าง ของคิระและแอลถึงแม้จะตขิดตขวงใจอยู่บ้าง กับการกระทำของแอลต่อคิระ แต่ว่าก็ละสายตาจากทั้งสองไม่ได้เลย
'ไหนประวัติศาสตร์ บอกว่าแอลกับคิระเป็นศัตรูกันไง ทำไมที่นี่ พวกเขาถึงสนิทกันขนาดนี้ หรือว่าพวกเขาใส่หน้ากากเข้าหากันหรอ... เหมือนเราแหะ' แต่ไลท์กลับแปลกใจกับแอล คิระ น่ะตัวเขาดูออกอยู่แล้วว่าเป็นการแสดง แต่ในสายตาของแอลที่ไลท์เห็น มันคือความรู้สึกจริงๆ
'คนนี้ เหมือนใครกันนะ ความรู้สึกแบบนี้'
'ไอ้คนที่ชน เมื่อตอนเย็น...หรอ'
ติ๊ดๆๆ ติ๊ดๆๆ เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นพร้อมกับทุกอย่างที่ดับวูบลงไป ไลท์ลืมตาตื่นขึ้น 'บ้าน'
"ฝันหรอ...ไม่สิ เรื่องจริงหรอ ไม่ ไม่ใช่...ฝัน..." ไลท์บ่นพึมพำอยู่สักพักจนแม่ต้องสกิดเรียกไลท์
"บ่นอะไร อยู่จ๊ะนอนไม่พอหรอ...หืม" แม่ยกถาดอาหารเช้ามาวางไว้ที่โต๊ะ ก่อนทั้งทั้งจะเริ่มรับประทานอาหาร
"...ปล่าวครับ"
ไลท์กำลังเดินไปมหาวิทยาลัย เขาเดินไปเรื่อยๆ แต่ในหัวสมองของเขาในตอนนี้ กำลังคิดถึงเรื่องบางอย่างอยู่ตลอดเวลา ...ความฝัน ในขณะที่ไลท์กำลังเดินผ่านสวนสาธารณะ สายตาของเขา ก็ได้ไปสดุดกับร่างโปร่ง ที่นั่งบนม้านั่งตรงสวนสาธารณะด้วยท่าทางแปลกประหลาด
'โอ๊ย' อยู่หัวของเขาก็ปวดขึ้นมาซะอย่างนั้น พร้อมกับที่ไลท์นึกถึงบางอย่างขึ้นมา 'ท่านั่งนั่น...แอลหรอ'
ขาของไลท์เดินไปหา ชายคนนั้นตามสัญชาตญาณของเขา พร้อมกับที่แอลยิ้มให้กับเด็กหนุ่มเดินเข้ามาหาเขา 'ก็จริงอยู่ที่เขาเหมือนแอล แต่ว่าการเริ่มสนทนากับคนที่ไม่รู้จักเราเอง แทบไม่ได้คิดเลยด้วยซ้ำ'
"มีอะไรกับผมรึปล่าวครับ" แอลถามไลท์
'เหมือนยันเสียงเลย'
"เอ่อ...ผมขอนั่งด้วยคน ได้มั้ยครับ" ไลท์มองสบตากับแอล(ดูปฎิกิริยาของอีกฝ่าย)
"เชิญครับ" แอลพูดและเขยิบที่ว่างให้
'แล้วไงต่อ จะถามเลยดีมั้ยนะ นายใช่แอลรึปล่าว บ้าน่าเพ้อเจ้อ หรือ นายคิดว่าการกลับมาเกิดมันเป็นไปได้รึป่าว แบบนี้เหมือนจีบเขาไม่ใช่รึไงกัน เราเคยเจอกันมาก่อนมั้ยครับ ยิ่งแย่กว่าเดิมไม่ใช่รึไง หรือคุณชื่ออะไร... ' ไลท์คิดไปต่างๆนาๆ สุดท้ายแอลก็แทรกขึ้น
"ดูเหมือน คุณกำลังเดินทางไปมหาวิทยาลัย แล้วตอนนี้คุณถึงมานั่งอยู่กับผมได้ครับ"
"ก็จริงของคุณครับ แต่ผมมีเรื่องกลุ่มใจบางอย่าง ก็เลยอยากผักผ่อนก่อนที่จะไปมหาวิทยาลัยน่ะครับ" ไลท์โกหก
แล้วทั้งสองก็เงียบ อีกครั้ง
"คุณ/ผมน่ะ..." ทั้งสองที่ดูเหมือนจะทนต่อความเงียบไม่ไหว จึงพูดขึ้นมา
"คุณพูดก่อนก็ได้ครับ" ไลท์พูดขึ้น แอลหันมาสบกับตาสีน้ำตาลเข้มของไลท์ ก่อนจะยกยิ้มขึ้น
"ครับ...ผมน่ะ จริงๆแล้ว ผมมาตามหาคนอยู่น่ะครับ มันอาจจะเป็นเรื่องเหลวไหล เพราะว่าเขาเป็นคนที่อยู่ในฝันของผมน่ะครับ แต่ผมก็คิดว่า ผมน่าจะเจอแล้ว" แอลสบตากับไลท์ อีกครั้ง ไลท์เบอกตากว้าง 'หรือว่า เขาตามหาเรา...'
"เอ่อ...คุณเชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิดรึป่าวครับ..." และสุดท้าย ก็คงเป็นครั้งแรกที่ไลท์ไม่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย และเค้าได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับแอล ในหลายๆเรื่อง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการพูดคุยในระยะเวลาสั้น แต่ว่าทุกๆคำพูดนั้นกลับทำให้ไลท์รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก และทุกๆคำพูดของแอลทำให้ไลท์ยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าคนๆนี้ คือคนเขาฝันถึง...แอล แต่ว่าแล้วยังไงหล่ะตอนนี้ พวกเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์ เหมือนแต่ก่อน พวกเขาในตอนนี้ ก็แค่...คนรู้จัก ก็เท่านั้น
ตอนนี้ก็คงถึงฉากสุดท้าย ของพวกเขาทั้งสองคน ...แอลนายเองก็ถึงเวลาแล้วสินะ...
"ผมน่ะ เจอคนที่ผมตามหาแล้ว คงจะไม่ปล่อยให้ไปได้ง่ายหรอกนะครับ ไลท์คุง" แอลพูดขึ้น ขณะที่บทสนทนา ใกล้จะจบลง
"แอล จริงๆหรอ" ไลท์เบิกตากว้าง พลางพูดขึ้นราวกับเสียงกระซิบ
"ไลท์คุง คราวนี้ไม่ได้มีเดธโน๊ต เหมือนอย่างแต่ก่อนแล้วนะครับ คุณน่ะฆ่าผมไม่ได้อีกแล้วนะครับ" แอลตอกย้ำมากขึ้น
"แอล..." ก่อนไลท์จะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ แอลก็ดึงตัวไลท์ไปกอด
"ผมโกรธนะ ที่คุณเอาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผมกับคุณมาเล่นกับจิตใจของผม ไลท์คุง คุณคิดว่าคุณจะสำนึกผิดเรื่องในอดีตยังไง หรอครับ" แอลกระซิบ
คุณเชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิด รึปล่าว?
ผมน่ะ เชื่อแล้วล่ะ ว่ามันมีจริง
ไลท์หลุบตาลง แล้วกอดแอลตอบ พลางส่งเสียงเบาราวกับเสียงกระซิบที่สงวนเอาไว้ให้แอลได้ยินคนเดียว "สำนึกผิด... ฉันเคยทำกับนายยังไง นายจะทบต้นทบดอกก็ได้ ฉันพร้อมที่จะสำนึกผิดแล้ว...แอล"
End.
Comments
Post a Comment